ทำเนียบขาวเผยว่ารัสเซียกำลังมองหาอาวุธเพิ่มเติมจากเกาหลีเหนือ สำหรับนำไปสู้รบในสงครามยูเครน พร้อมระบุตัวชายชาวสโลวะเกีย ว่าเป็นคนกลางในข้อตกลงซื้อขายอาวุธระหว่างมอสโกและเปียงยาง

“เรามีข้อมูลใหม่ว่า รัสเซีย กระตือรือร้นหาทางซื้อกระสุนเพิ่มเติมจากเกาหลีเหนือ” จอห์น เคอร์บี โฆษกด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวกล่าว พร้อมระบุตัวชายชาวสโลวะเกีย ชื่อว่า อาชอต มเคอร์ทีเชฟ วัย 56 ปี จากบราติสลาวา ทำหน้าที่เป็นคนกลางในข้อตกลงซื้อขายและแลกเปลี่ยนอาวุธ ระหว่าง 2 ชาติ ในช่วงปลายปี 2022 ถึงต้นปีที่ผ่านมา
“ภายใต้การสนับสนุนของเจ้าหน้าที่รัสเซีย มเคอร์ทีเชฟ พยายามเป็นนายหน้าของข้อตกลงลับซื้อขายอาวุธระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือ” เคอร์บีกล่าว
ตามข้อมูลของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ซึ่งใส่ชื่อ มเคอร์ทีเชฟ ในบัญชีดำสำหรับคว่ำบาตร ระบุว่าความเคลื่อนไหวที่พูดถึงก็คือ กรณีที่เกาหลีเหนือส่งมอบอาวุธหลายสิบชนิดและกระสุนไปยังรัสเซีย และในทางกลับกัน เปียงยาง จะได้เงินสด เครื่องบินพาณิชย์ สินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆและวัตถุดิบทั้งหลาย เป็นการตอบแทน
เคอร์บี กล่าวว่า วอชิงตัน ทราบมาว่า รัสเซีย กำลังหาทางส่งผู้แทนทูตรายหนึ่งไปยังเกาหลีเหนือ และหยิบยกข้อเสนอมอบอาหารแก่เปียงยาง เพื่อแลกกับกระสุน อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้บอกว่าทั้งสองชาติบรรลุข้อตกลงโดยสมบูรณ์แล้วหรือไม่ รวมถึงไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธที่อยู่ในข้อตกลงดังกล่าว
“ข้อตกลงด้านอาวุธใดๆระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย จะเป็นการละเมิดโดยตรงต่อมติต่างๆนานาของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ” เคอร์บีเผย
นอกจากนี้แล้ว เคอร์บี ระบุว่าข้อตกลงที่ทาง มเคอร์ทีเชฟ มีส่วนเกี่ยวข้องนี้ เป็นคนละส่วนกับที่เกาหลีเหนือขายจรวดและกระสุนปืนใหญ่แก่พวกวากเนอร์ กรุ๊ป เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ในขณะที่กลุ่มวากเนอร์ เป็นกองกำลังกึ่งอิสระของรัสเซีย ที่กำลังสู้รบในแนวหน้าต่างๆในยูเครน
จากการที่ถูกกระทรวงการคลังสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำ ทำให้ มเคอร์ทีเชฟ ถูกตัดขาดจากระบบการเงินของสหรัฐฯ “ณ ตอนนี้ เขาจะเผชิญความท้าทายใหญ่หลวง ในความพยายามเข้าถึงและละเมิดระบบการเงินระหว่างในประเทศ หลังจากความเคลื่อนไหวของเขาถูกเปิดโปงแล้ว” เคอร์บีกล่าว
ขณะเดียวกันสหรัฐฯจะมีการขึ้นบัญชีดำกับใครก็ตามที่มอบการสนับสนุนแก่ มเคอร์ทีเชฟ ด้วย “ความเคลื่อนไหวในวันนี้ คือการส่งสารอย่างชัดเจน จะไม่ลดละในการเล็งเป้าหมายพวกที่ให้การสนับสนุนการรุกรานของนัสเซียและการทำสงครามอันโหดร้ายป่าเถื่อนกับยูเครน” แอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯระบุ
“เราจะเดินหน้าระบุตัว เปิดโปงและตอบโต้ความพยายามของรัสเซีย ในการซื้อยุทโธปกรณ์ทางทหารจากเกาหลีเหนือหรือรัฐอื่นใด ที่เตรียมพร้อมให้การสนับสนุนสงครามของรัสเซียในยูเครน” ตามคำกล่าวของบลินเคน
เมื่อเดือนกันยายนปีก่อน กองกำลังของทั้งยูเครนและรัสเซีย ต้องเผชิญกับเค้าลางกระสุนปืนใหญ่ขาดแคลน และทำเนียบขาวระบุพวกเขามีข่าวกรองว่ารัสเซียกำลังมีแผนซื้อกระสุนและจรวดจากเกาหลีเหนือ แม้เปียงยางปฏิเสธคำกล่าวหาในเวลาต่อมา แต่ไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่อเมริกาก็ยังคงเน้นย้ำคำกล่าวอ้างดังกล่าว
ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน เคอร์บีระบุว่าเกาหลีเหนือกำลังส่งมอบกระสุนแก่รัสเซีย แต่จัดฉากการซื้อขายให้ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังส่งมอบอาวุธไปยังตะวันออกกลางหรือไม่ก็แอฟริกาเหนือ
จากนั้นในเดือนธันวาคม เคอร์บี กล่าวอ้างว่าจากข่าวกรองที่สหรัฐฯมี พบว่าเกาหลีเหนือ เสร็จสิ้นการส่งมอบอาวุธในเบื้องต้น แก่พวกวากเนอร์กรุ๊ปแล้ว